วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ประโยชน์ของกีฬาเเละคุณค่าของกีฬาต้างๆ

ประโยชน์ของการเล่นกีฬา 
การเล่นกีฬาและออกกำลังกาย
ที่พอดีอยู่เสมอ จะมีผลดีต่อ
ร่างกาย ดังนี้

1. ระบบหมุนเวียนโลหิต กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรงขึ้น หลอด
เลือดมีความยืดหยุ่นตัวดี ชีพจรขณะพักลดลง ซึ่งแสดงถึง
ประสิทธิภาพสำรองของหัวใจดีขึ้นสามารถทำงานได้ดี
2. ระบบหายใจ ถุงลมหด และขยายยืดตัวได้ดี ปอดแข็งแรง
3. ระบบกล้ามเนื้อ แข็งแรง
4. ระบบโครงกระดูก กระดูกข้อต่อแข็งแรง ข้อต่อเคลื่อน
ไหวได้ดี
5. ประโยชน์ทั่วไป
    5.1 ทำให้มีสุขภาพดี ทั้งร่างกายและจิตใจ
    5.2 ทำให้ร่างกายมีสมรรถภาพ ในด้านความทนทาน แข็ง
          แรง อ่อนตัว ว่องไว และการทรงตัวดี สามารถทำงาน
          ต่างๆ ได้มากขึ้น ความเหนื่อยมีน้อยลง กระฉับกระเฉง
         ไม่อ่อนเพลีย
   5.3 มีโอกาสบริหารร่างกายได้ทุกส่วน ช่วยควบคุมน้ำหนัก
         ตัวและทรวดทรง
   5.4 ช่วยลดไขมัน และน้ำตาลในกระแสเลือด
   5.5 นอนหลับสบายลดความตรึงเครียดในสมอง
   5.6 ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น ขับถ่ายสบาย ท้องไม่ผูก
   5.7 จิตใจผ่องใส แก้อาการหงอยเหงา เซื่องซึม
   5.8 มีความเชื่อมั่นในตนเอง มีสติปัญญาและความคิดสร้าง
         สรรค์ที่ดี
ประโยชน์และคุณค่าของกีฬาวอลเลย์บอล      
      1. ส่งเสริมความสามัคคีของผู้เล่น ตลอดจนความมีน้ำใจเป็นนักกีฬา
      2. ทำให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
      3. ช่วยพัฒนาระบบการเคลื่อนไหวให้เป็นไปด้วยความคล่องแคล่วว่องไวได้จังหวะถูกต้อง
      4. ทำให้เป็นผู้ที่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี และมีความกล้า ความเชื่อมั่นตนเอง รวมทั้งความสุขุมรอบคอบ
      5. ส่งเสริมการสร้างวินัยของตนเอง และตลอดจนคุณธรรม จริยธรรม
      6. ส่งเสริมการสร้างวินัยของตนเอง และตลอดจนคุณธรรม จริยธรรม
      7. ทำให้จิตใจร่าเริง แจ่มใส เมื่อนำวอลเลย์บอลไปใช้ในการออกกำลังกาย
      8. ทำให้ร่างกายแข็งแรง มีสุขภาพดี
      9. ส่งเสริมการรู้จักการใช้พลังงานและจังหวะในการเคลื่อนไหว
    10. เป็นกีฬาที่ประหยัด เหมาะสมกับทุกโอกาส ทุกสถานที่ อุปกรณ์หาง่าย
    11. เหมาะสมกับทุกเพศทุกวัย กติกาต่างๆ เข้าใจง่าย สามารถเล่นด้วยความสนุกสนาม เพลิดเพลิน เป็นการพักผ่อนหย่อนใจ
การบำรุงรักษาอุปกรณ์ วอลเลย์บอล 
1. มีชั้นหรือตู้เก็บอุปกรณ์ไว้โดยเฉพาะ เพื่อสะดวกในการใช้งาน
         2. อุปกรณ์ที่ชำรุดควรซ่อมแซมอย่าปล่อยทิ้งไว้

         3. อย่าขึงตาข่ายไว้กลางแจ้ง ให้ถูกแดดถูกฝนเป็นเวลานานๆ

         4. อย่าให้ลูกวอลเลย์บอลที่ทำด้วยหนังถูกน้ำนานๆ

         5. ทำความสะอาดลูกวอลเลย์บอลทุกครั้ง ด้วยการใช้ผ้าแห้งเช็ดก่อนที่จะนำไปเก็บ

         6. การสูบลมควรใช้เข็มสำหรับสูบโดยเฉพาะ

         7. หมั่นเช็ด กวาด ถูพื้นสนามเล่นให้สะอาดอยู่เสมอ

         8. ห้ามเล่นลูกวอลเลย์บอลใกล้ลวดหนาม หรือต้นไม้ที่มีหนามแหลมคม

          9. ห้ามนักเรียนใช้เท้าเตะลูกวอลเลย์บอลอัดกำแพง

ประโยชน์ในระยะสั้น

  1. ทำให้ร่างกายแข็งแรงและอวัยวะทุกส่วนได้พัฒนาอยู่เสมอโดยเฉพาะข้อมือ แขน ขา และ สายตา

  2. เป็นกีฬาที่ต้องใช้สมรรถภาพทางร่างกายที่ดี สมรรถภาพทางร่างกายดังกล่าว คือความแข็งแรง ความอดทน การทำงานสัมพันธ์กันของระบบประสาทกับระบบกล้ามเนื้อ พลังความยืดหยุ่นของอวัยวะต่าง ๆ ความคล่องตัว ความทนทานของกล้ามเนื้อ และระบบไหลเวียนเลือด ดังนั้น จึงทำให้ผู้เล่นมีร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอ

  3.  ถ้าเล่นแบดมินตันเพื่อความอดทน จะช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น เพิ่มอัตราการเผาผลาญอาหารให้สูงขึ้น เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ และอัตราการหายใจให้ลึกและดีขึ้นด้วย

  4. แบดมินตันมีวิธีการตีลูกหลายแบบ จึงมีเทคนิคเล่นมากมายที่ทำให้ได้ การฝึกฝนการใช้สติปัญญาอยู่ตลอดเวลา

  5. เป็นกีฬาที่ต้องใช้ความฉลาด ไหวพริบ และการส่อหลอกประกอบกัน จึงกล่าวได้ว่าการเล่นแบดมินตันเป็นการทำสงครามด้วยความฉลาด เพราะการเล่นมีการรุก – รับตลอดเวลา

  6. ช่วยผ่อนคลายความตรึงเครียดและสร้างความพอใจให้ผู้เล่นเพราะคนทั่ว ๆ ไปต้องการเล่นให้สนุกสนานปล่อยอารมณ์ไปกับการเคลื่อนไหวตามชนิดต่าง ๆ ของกิจกรรม ตามหลักจิตวิทยาแล้วแบดมินตันยังช่วยเสริมสร้างและรักษาจิตใจได้อีกด้วย จิตแพทย์คาร์ล เมนนินเยอร์(Dr.Karl Menninger)หัวหน้าหน่วยงานTopekaซึ่งเป็นหน่วยงานระดับโลก ได้แนะนำให้ใช้กีฬาแบดมินตันเป็นกิจกรรมนันทนาการสำหรับคนไข้ที่ผิดปกติทางอารมณ์ และไม่ใช่แต่จะทำให้สุขภาพจิตของคนป่วยดีขึ้นเท่านั้นคนปกติก็ดีขึ้นด้วยเช่นกัน

  7.  เป็นกีฬาที่สร้างเสริมมนุษย์สัมพันธ์ มิตรภาพ และการแสดงออกที่แสดงถึงความมีน้ำใจนักกีฬาอย่างแท้จริง เพราะการเล่นต้องเล่นร่วมกับคนอื่น ๆ ได้มีการพบปะสังสรรค์ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย จะได้รับประโยชน์เท่า ๆ กัน

  8.  เป็นกีฬาที่มีคนนิยมมาก มีรางวัลสูง มีการแข่งขันทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้ได้เห็นเกมส์แบดมินตันดี ๆ อยู่เสมอ


15660_97549.gif

ประโยชน์ในระยะยาว

  1. ผู้มีส่วนร่วมในกีฬาแบดมินตันจะได้รับประโยชน์ทั้งทางด้านสรีรวิทยา จิตวิทยา และสังคมวิทยา เป็นอย่างมาก

  2. โลกในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และเพื่อเป็นการลดความกดดันลงบ้าง งานอดิเรกจึงจำเป็นและสำคัญสำหรับมนุษยชาติ กีฬาแบดมินตันจึงเป็นกีฬาที่ใช้เป็นงานอดิเรกได้ดียิ่ง มีทั้งความตื่นเต้น สนุกสนานในชีวิตประจำวัน และแม้ว่าจะอายุถึง 60-70 ปี ก็ยังสามารถเล่นได้อยู่

  3.  เป็นกีฬาที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรง สมบูรณ์ของร่างกาย โดยการเล่นเป็นประจำ

  4.  เป็นกีฬาประเภทบุคคล จึงไม่จำเป็นต้องใช้หรือรอคอยส่วนประกอบอื่น ๆ มากนักและไม่ต้องใช้อุปกรณ์มากด้วย





       

ความหมายดอกไม้

"ดอกกุหลาบสีแดง"
Red Rose
"กุหลาบ" นั้นมาจากคำว่า "คุล" ที่ในภาษาเปอร์เซียแปลว่า "สีแดง ดอกไม้ หรือดอกกุหลาบ" โดยในภาษาฮินดีก็มีคำว่า "คุล" แปลว่า "ดอกไม้" และคำว่า "คุลาพ" ก็หมายถึงกุหลาบอย่างที่ไทยเราเรียกกัน แต่ออกเสียงเป็น "กุหลาบ" ส่วนคำว่า "Rose" ในภาษาอังกฤษนั้นมาจากคำว่า "Rhodon" ที่แปลว่ากุหลาบในภาษากรีก
ดอกกุหลาบสีแดง บ่งบอกถึงการตกหลุมรักหรือแอบปลื้มใครซักคน เป็นสื่อแทนใจเพื่อจะบอกให้รู้ว่ามีคนกำลัง แอบปลื้มอยู่ มีความรักที่สุดแสน จะลึกซึ้ง  มั่นคง เรียกได้ว่าความรักนั้น ไม่มีวันจืดจางไป จากหัวใจ  กุหลาบเป็นดอกไม้ของกามเทพ คิวปิด และอีรอส เป็นสิ่งนำโชคนำความรักมาให้แก่หญิงหรือชายที่ได้รับ


"ดอกเบญจมาศ หรือ ดอกมัม"
Chrysanthemum
ดอกเบญจมาศ คือ สัญลักษณ์ ของฤดูใบไม้ร่วง ในคติความเชื่อโบราณของจีน ดอกเบญจมาศคือความเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของความมีอายุยืนและความงามนิรันดร์

ดอกเบญจมาศ (Chrysanthemum) - ดอกเบญจมาศหรือดอกมัม เป็นดอกไม้แห่งความรื่นเริงและความบริสุทธิ์ใจ ผู้ที่ชอบให้ดอกไม้นี้ แสดงว่าเป็นคนมองโลกในแง่ดีเสมอ หากอยากแสดงถึงความรื่นเริงชื่นบาน ให้ใช้ดอกไม้นี้มอบแก่ผู้รับ
ดอกเบญจมาศสีแดง เป็นดอกไม้แห่งความรัก นิยมมอบดอกเบญจมาศสีแดง เพื่อแสดงถึงความรักใคร่ชอบพอ
ดอกเบญจมาศสีเหลือง เป็นดอกไม้แห่งความโชคดี รักนิดหน่อย นิยมมอบดอกเบญจมาศเหลืองแก่ผู้หลักผู้ใหญ่หรือคนรู้จักกันเมื่อไปเยี่ยมเยียนหลังจากไม่ได้พบกันมานาน หรือเพิ่งไปมาหาสู่บ้านเขาเป็นคราวแรก (แสดงถึงรักที่บางเบา อ่อนไหวง่าย)
ดอกเบญจมาศสีขาว  ถือเป็นดอกไม้สูงศักดิ์ และทรงเกียรติ เป็นสัญลักษณ์แห่งความซื่อสัตย์ สามารถมอบดอกเบญจมาศสีขาวให้แก่ผู้ใดก็ได้ เพื่อแสดงความซื่อสัตย์ภักดี ไม่จำกัดว่าผู้รับต้องเป็นเพศตรงข้ามเท่านั้น




"ดอกคาร์เนชั่น"
Carnation
ดอกคาร์เนชั่น เป็นสัญลักษณ์ของการเฉลิมฉลอง ซึ่งในตำนานความเป็นมาของชาวกรีกโรมันมักจะนิยมในการใช้เจ้าดอกไม้ชนิดนี้ในการแสดงความยินดี ความรื่นเริงต่างๆ
ดอกคาร์เนชั่นสีแดง ดอกคาร์เนชั่นสีแดงเป็นดอกไม้ที่สื่อถึงความรัก ประมาณว่าโปรดเห็นความรักของฉันด้วย ออกแนวออนแบบน่ารักๆ ถ้าคุณอยากให้คนที่แอบชอบดอกคาร์เนชั่นสีแดงก็น่าจะเหมาะนะ
ดอกคาร์เนชั่นสีชมพู ดอกคาร์เนชั่นสีชมพูจะมีความหมายลึกซึ่ง ความหมายของคาร์เนชั่นสีชมพู ก็เหมือนสีหวานๆ ของมันนั้นเอง  ความหมายก็คือ ความรักที่กำลังพลิบาน เป็นสีชมพู อันนี้ก็หวานไม่แพ้สีอื่นเลยนะ
ดอกคาร์เนชั่นสีลาย ดอกคาร์เนชั่นสีลายนั้น จะมีความหมายถึง ความเป็นเพื่อน ถ้ามีใครให้ดอกคาร์เนชั่นสีลายนั้น ให้คุณคิดไว้เลยว่า เขาไม่ได้สนใจคุณแนวความรัก แต่คงมีความเป็นเพื่อนให้ต่อกัน
ดอกคาร์เนชั่นสีเหลือง เป็นสัญลักษณ์ของความดูถูกเหยียดหยาม ความทรนง ถ้าผู้ให้ได้ให้ดอกคาร์เนชั่นสีเหลืองแก่ใครแสดงว่า ผู้ให้นั้นรู้สึกดูหมิ่นเหยียดหยามผู้รับอย่างมาก หรืออีกความหายหนึ่งคือ บอกถึงความรู้สึกงอน อยากให้อีกฝ่ายมาง้อ
ดอกคาร์เนชั่นสีขาว นิยมใช้ในการแสดงความชื่นชมยินดีตามแต่วาระต่างๆ เช่นการรับปริญญา เป็นต้น หรือสื่อถึงความรักที่บริสุทธิ์ ไร้เดียงสา อ่อนโยน คุณคือของมีค่าที่น่าทะนุถนอม นอกจากนี้ยังใช้ในการแสดงความขอบคุณอีกด้วย



"ดอกกุหลาบสีเหลือง"
Yellow Rose
ดอกกุหลาบสีเหลือง เป็นตัวแทนแห่งมิตรภาพ สื่อถึงความห่วงใยของผู้ให้ แสดงถึงความปรารถนาดี ต้องการให้สุขภาพแข็งแรง มีความสุขสดชื่น หลายคนเชื่อว่าเป็นดอกไม้ที่ใช้สำหรับเยี่ยมคนป่วย แต่จริงๆแล้วก็สามารถให้กับเพื่อนๆ เนื่องในโอกาสพิเศษได้เช่นกัน



"ดอกกุหลาบสีขาว"
White Rose
ดอกกุหลาบสีขาว แสดงถึงความรักที่ใสสะอาด บริสุทธิ์ น่าทนุถนอมโดยไม่คิดเลยว่าความรักที่มอบให้ไปนั้น จะได้ความรักตอบกลับมาหรือเปล่า นิยมใช้เพื่อแสดงความรักที่จริงใจของตนเอง เช่น ผู้ใต้บังคับบัญชามอบให้เจ้านาย ศิษย์มอบให้ครูบาอาจารย์ ลูกมอบให้พ่อแม่

"ดอกลิลลี่สีขาว"
White Lily
ดอกลิลลี่สีขาว แสดงออกถึงความรักที่บริสุทธิ์เช่นเดียวกัน กับดอกกุหลาบสีขาว นอกจากนั้น ดอกลิลลี่สีขาว ยังแสดงออกถึง ความรักแบบอ่อนหวาน จริงใจ และเทิดทูน จึงมักถูกใช้แทน ประโยคที่ว่า "ฉันรู้สึกดีที่ได้รู้จักและอยู่ใกล้คุณ" ดอกลิลลี่สีขาวเหมาะสมกับโอกาส ที่ต้องการทำความรู้จัก การแสดงออกถึงความรักอย่างวันวาเลนไทม์ แสดงความยินดีในวันรับปริญญาหรืองานมงคลต่างๆ



"ดอกลิลลี่สีชมพู"
Pink Lily
ดอกลิลลี่สีชมพู แสดงออกถึงการค้นหาความรักที่ดีที่สุดแล้วพบเจอมัน คือ "ที่สุดของหัวใจที่ฉันตามหา" หรือ "ความอ่อนหวานของเธอช่วยเติมเต็มชีวิตฉัน"เป็นดอกไม้ที่ผสมผสานอารมณ์ของความรักได้ อย่างลงตัว สื่อถึงความรักความจริงใจที่มี ดอกลิลลี่สีชมพูเหมาะสมกับโอกาสที่ ต้องการแสดงออกและสื่อถึงความรู้สึกทั้งหมด ดังเช่นวันแห่งความรัก

 
"ดอกลิลลี่สีส้ม"
Orange Lily
ดอกลิลลี่สีส้ม แสดงออกถึงความร่าเริง สดใส ความปิติสุขที่ได้อยู่ใกล้ คือ "สุขใจที่ได้ใกล้เธอ" เป็นดอกไม้ที่นำความน่ารักและความสดใสมารวมกันอย่างพอดี ดอกลิลลี่สีส้มเหมาะสมกับโอกาสที่จะมอบให้กับบุคคลที่เรารัก ส่วนใหญ่จะเป็นคนในครอบครัวหรือเพื่อนฝูง



"ดอกลิลลี่สีเหลือง"
Yellow Lily
ดอกลิลลี่สีเหลือง แสดงออกถึงความอบอุ่นที่ห่วงใย ของความรักที่มั่นคง "ขอให้คุณปลอดภัยคนดี" เป็นดอกไม้ที่สื่อความหมายได้อย่างลึกซึ้ง ดอกลิลลี่สีเหลืองเหมาะสมกับโอกาสที่จะแสดงออกถึงความห่วงใย ห่วงหาอาทร ดังเช่น โอกาสที่เราไปเยี่ยมเยือนผู้ป่วย ไปพบหาญาติมิตร

"ดอกลิลลี่ ออฟ เดอะ วัลเลย์"
Lily of the Valley
ดอกลิลลี่ ออฟ เดอะ วัลเลย์ นั้น ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของความสุขที่หวนคืนมา เพราะ ด้วยดอกกระจิดลิดสีขาวสะอ้านตา รูปทรงเหมือนระฆังเล็กๆ เรียงบนกิ่งก้านบอบบาง มีกลิ่นหอมหวนหวานสนิท หรือให้ความหมายลึกซึ้งกินใจว่า ความอ่อนหวานของคุณช่วยเติมชีวิตฉันให้สมบูรณ์



"ดอกกุหลาบสีชมพู"
Pink Rose
ดอกกุหลาบสีชมพู เป็นความโรแมนติกที่แสดงถึงความรักที่หวานซึ้งที่ผู้ให้มีต่อผู้รับ แต่ก็อย่าเพิ่งดีใจ เพราะว่ามันไม่ได้เป็นความรักที่ลึกซึ้ง
แค่เป็นเพียงรักที่ฉาบฉวยต้องการเปลี่ยนแปลงเพื่อแสวงหาสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดเท่านั้นเอง

"ดอกเยอบีร่า"
Gerbera
เยอบีร่า เป็นไม้ดอกที่ปลูกง่าย มีสีสันหลากหลายและสวยสดใส จึงนิยมตัดดอกมาปักแจกันเพราะว่ามีอายุการปักแจกันนานสามารถอยู่ได้หลายวัน  เยอบีร่าไม่ใช่จะมีเพียงแค่ความสวยงามเท่านั้น แต่ยังมีประสิทธิภาพในการดูดสารพิษภายในอาคารได้ดีอีกด้วย ความหมายของเยอบีร่ามีด้วยกันสองความหมายคือ ความบริสุทธิ์ไร้เดียงสา กับ ความเข้มแข็ง จึงแปลความมาได้ หมายถึง "จิตใจที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสาแต่แฝงไว้ด้วยความเข้มแข็ง" หรือ “เธอคือแสงอาทิตย์ แห่งชีวิตฉัน”



"ดอกไฮเดรนเยีย"
Hydrangea
ไฮเดรนเยีย ดอกไม้นี้มีความหมายทั้งในเชิงลบ และเชิงบวก ส่วนใหญ่จะบอกว่า ดอกนี้หมายถึง “ดอกไม้แห่งหัวใจด้านชา” ว่ากันว่า ไม่ควรมอบดอกไม้นี้ให้แก่ผู้ใด นอกจากอยากจะตัดพ้อผู้รับว่า เขาหรือเธอ ช่างเป็นคนใจด้านชาเสียเหลือเกิน แต่ในอีกความหมาย ดอกไฮเดรนเยีย หมายถึง “คำขอบคุณ” ขอบคุณที่เข้าใจกัน ดอกไม้ที่เล็กๆ บอบบาง แต่แสดงความขอบคุณอันยิ่งใหญ่ เหมือนจะเอ่ยเป็นคำพูดว่า "ขอบคุณที่เข้าใจในตัวฉัน และยอมรับความเป็นฉันเสมอมา"

"ดอกกุหลาบสีส้ม"
Orange Rose
ดอกกุหลาบสีส้ม สื่อให้เห็นถึงความสดใส ความเป็นตัวของตัวเอง ของผู้รับ เมื่ออยู่ใกล้แล้วทำให้รู้สึกอบอุ่น และยังบ่งบอกความในใจถึงความรักและสิ่งที่ผ่านมาด้วย


 

"ดอกคาลล่า ลิลลี่"
Calla Lily
ดอกคาลล่าลิลลี่ เป็นดอกไม้แห่งความสว่างไสว ป็นดอกไม้ที่ได้รับความนิยมมากสำหรับงานแต่งงาน ช่วยสร้างความรู้สึกหรูหรา สง่างามให้แก่บ้าน เป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความบริสุทธิ์ ด้วยเหตุผลที่คาลล่า ลิลลี่ เป็นดอกไม้ที่แย้มบานอย่างช้าๆ มีสีสันให้เลือกใช้ได้มากมาย และเป็นดอกไม้ที่สวยงามคงทน จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะใช้ประดับในงานแต่งงาน การแสดงความเอื้ออาทร หรืออย่างน้อยสำหรับประดับตกแต่งบ้านให้รู้สึกรื่นรมย์

"ดอกคัตเตอร์"
Cutter
ดอกคัตเตอร์ มักใส่เป็นดอกไม้ประดับมากกว่าจะใส่เป็นดอกเด่น ใส่แค่ฉากหลัง โดยที่มีดอกไม้สวยช่อใหญ่ สีสันสดใส แข่งกันชูช่ออยู่ด้านหน้า ความงามของมันคงอยู่ที่ว่า มันเป็นดอกไม้ที่มีน้ำใจ ตัวเองไม่ได้เด่น ไม่ได้งดงาม แต่ก็ทำให้คนอื่นดูงามขึ้นได้ ความหมายลึกๆหมายถึง แม้คุณจะไม่มองฉัน เพราะฉันมีแต่คุณเสมอ



"ดอกไลเซนทัส"
Lisianthus
ดอกไลเซนทัส เป็นไม้ดอกขนาดเล็ก คล้ายดอกกุหลาบ แต่ออกดอกจะเป็นช่อ มีกลีบบางอ่อน ดูนุ่มนวล อ่อนช้อย มีหลายสี เช่น สีขาว พีช ขาวขอบชมพู ขาวขอบม่วง ชมพู ม่วง และลาเวนเดอร์
เมื่อใช้จัดร่วมกับดอกไม้ชนิดอื่นๆแล้ว จะช่วยให้การจัดดอกไม้ชิ้นงานนั้นๆ ดูอ่อนหวานขึ้น จึงมักถูกใช้ประดับในช่อดอกไม้ในงานแต่งงานดอกไลเซนทัส  ให้ความหมายว่า การใส่ใจเอาใจใส่ต่อคนคนนั้น หรือมิตรภาพที่ยั่งยืนและความทรงจำที่ดี

"ดอกหน้าวัว"
Flamingo Flower
ดอกหน้าวัว แทนความหมายของการต้อนรับขับสู้ด้วยความยินดี ในโอกาสที่ถูกเชิญไปเป็นแขก ผู้คนก็มักนิยมนำดอกไม้ชนิดนี้ติดไม้ติดมือไปฝากเจ้าของบ้านด้วยนั่นเอง
ถ้าจะให้เป็นดอกไม้แทนใจแล้วละก็ความหมายของดอกหน้าวัวนั้นก็อาจจะฟังดูเศร้าไปหน่อย และความหมายแทนใจก็คือ “หญิงสาวผู้เหงาเศร้า แต่หยิ่งและทรนงค์ในศักดิ์ศรีของตัวเอง” แต่ถ้าจะให้เป็นดอกไม้แทนความรักแล้วละก็มีความหมายที่ดีไม่แพ้ใครเลยซึ่งความหมายนั่นก็คือ “ความรักที่มั่นคงและอดทน”



"ดอกสแตติส"
Statice
ดอกสแตติส เป็นไม้ดอกที่มีความสวยงามได้นานและคงรูปได้แม้ดอกจะแห้ง จึงมักจะนำไปประดับแซมในช่อดอกไม้ใหญ่ๆเพื่อประดับในงานพิธีต่างๆและงานแต่งงาน สแตติสเป็นไม้เมืองหนาว ไม่ค่อยถูกกับแสงแดด ถ้าให้เจอกับแสงแดดเป็นเวลานาน จะทำให้สีของดอกซีดลงเพราะกลีบดอกขาดน้ำ ในช่วงที่มีการนัดเดท หรือวันครบรอบในโอกาสพิเศษต่างๆ หนุ่มสาวในแถบยุโรปมักจะมอบดอกสแตติสให้อีกฝ่าย เพราะมีความหมายว่า ความรู้สึกดีๆที่คงอยู่ตลอดไป

"ดอกกล้วยไม้"
Orchid
ดอกกล้วยไม้ เป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง  ความรัก และความสง่างาม   แสดงถึงความประเสริฐ เลิศ  และความงามอันละเมียดละไม  ในหมู่ชาวกรีกสมัยก่อน ดอกกล้วยไม้แสดงถึง การสืบเผ่าพันธุ์  แต่สำหรับชาวจีนเรียกดอกกล้วยไม้ว่าเป็น “พืชแห่งกลิ่นกษัตริย์” หรือเป็นดอกไม้ที่ไว้บอกภาษารักว่า “ฉันไม่อาจห้ามใจให้คิดถึงเธอได้” ดอกกล้วยไม้ยังใช้เป็นสัญลักษณ์วันครูด้วย กว่าที่กล้วยไม้แต่ละช่อจะผลิตดอกออกผล ให้เราชื่นชมได้ ต้องใช้เวลานานและต้องการดูแลเอาใจใส่เปรียบได้กับ ครูแต่ละคนกว่าจะสั่งสอนเคี่ยวเข็นศิษย์คนแล้ว
คนเล่าให้มีความเจริญงอกงามก้าวหน้าในชีวิตได้ ก็ต้องใช้่เวลาอบรมสั่งสอนมิใช่น้อยเช่นกัน


ที่มา:http://www.fruitnflora.com/meaning-of-flower/

ประโยชน์ของอาหารไทย

ประโยชน์ของอาหารไทย

          อาหารไทยจัดว่าเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่แสดงถึงความเป็นชาติไทยมาแต่สมัยโบราณ และอาหารไทยก็ กำลังเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก เนื่องด้วยอาหารไทยมีความโดดเด่นทั้งในเรื่องของรสชาติ มีคุณค่าทางโภชนาการ และสารอาหารที่ครบถ้วน รวมถึงมีความหลากหลายของสมุนไพร และเครื่องเทศที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายอีกด้วย

         นักวิจัยพบว่าผักพื้นบ้านของไทยกว่าร้อยชนิดอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีคุณสมบัติในการต้านสารอนุมูลอิสระ (
Anti-oxidant) เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี สังกะสี ซิลิเนียม และแคโรทีนอยด์ สารเหล่านี้พบได้ทั่วไปในพืชผักผลไม้ ซึ่งการรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้จะช่วยให้ระบบแอนติออกซิแดนซ์ของร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

        นอกจากพืชผักผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระแล้ว
 
อาหารไทยยังมีคุณค่าทางโภชนาการและคุณค่าที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงได้อีกด้วย โดยเฉพาะอาหารยอดนิยมที่พูดแล้วไม่มีใครไม่รู้จัก เช่น ผัดไทย ต้มยำกุ้ง ต้มข่าไก่ แกงเขียวหวาน แกงเลียง พะแพง เป็นต้น อาหารไทยเหล่านี้มีล้วนมีเครื่องเทศและสมุนไพรไทยเป็นส่วนประกอบ จึงอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการและสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ได้แก่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรท ไขมัน แร่ธาตุ วิตามิน และ ใยอาหาร ในปริมาณที่แตกต่างกัน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับชนิดของอาหารที่เลือกรับประทาน วันนี้เราจึงนำประโยชน์และคุณค่าของอาหารไทยมาแนะนำกันค่ะ





ส้มตำ  เป็นสุดยอดของอาหารต้านสารอนุมูลอิสระ ช่วยล้างพิษในลำไส้ และอุดมไปด้วยใยอาหารมากมาย



ผัดไทย  เป็นอาหารขึ้นชื่อประจำชาติไทยที่ให้พลังงานสูง มีโปรตีน วิตามินซี ใยอาหาร และยังอุดมไปด้วย แคลเซียมและฟอสฟอรัส อีกทั้งยังมีสารพฤกษฮอร์โมนที่เป็นไฟโตเอสโตรเจนป้องกันมะเร็งและลดไขมันได้อีกด้วย


แกงเขียวหวาน  เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามิน โปรตีน ไขมัน มีใยอาหารสูงจากมะเขือและเบต้าแคโรทีนที่เป็นส่วนผสมของสมุนไพรในเครื่องแกง


แกงเลียง  มีไขมันน้อยและให้พลังงานต่ำ แต่อุดมไปด้วยใยอาหารจากผักต่างๆ หลากหลายชนิด


แกงพะแนง  มีโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ไขมัน เป็นอาหารที่ให้พลังงานสูงมาก และเส้นใยอาหารที่ได้จากพืชสมุนไพรในเครื่องแกง




ต้มข่าไก่  มีไขมันต่ำ ให้พลังงานน้อย อุดมไปด้วยฟอสฟอรัส




ต้มยำกุ้ง  อุดมไปด้วย โปรตีน แร่ธาตุ และคาร์โบไฮเดรต มีไขมันน้อยมาก และโคเลสเตอรอลที่พบในกุ้งเป็นโคเลสเตอรอลชนิดดีที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย สามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจได้อีกด้วย

         นอกจากอาหารไทยจะมีคุณค่าทางโภชนาการแล้วยังมีคุณค่าต่อร่างกายและยังช่วยเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรงอีกด้วย เนื่องจากอาหารไทยมีส่วนผสมของอาหารที่เป็นพืชผัก
สมุนไพร เครื่องเทศหลายชนิด มีสารต้านอนุมูลอิสระ และผักบางชนิดที่ใส่ลงไปในอาหารยังมีฤทธิ์ต้านมะเร็ง เช่น กระชาย ใบกะเพรา ใบมะกรูด ตะไคร้ ใบชะพลู พริกไทยอ่อน เป็นต้น


               Thefood.comแหล่งอ้างอิง : http://drinkingalkalinewater.com



ประโยชน์และโทษของอาหารฟาสต์ฟู้ด

1. ช่วยประหยัดเวลา
          แน่นอนว่าเวลารีบ ๆ ฟาสต์ฟู้ดถือเป็นตัวเลือกอันดับแรก ๆ ของใครหลาย ๆ คน เพราะสะดวกทันใจแถมยังอร่อยสุด ๆ เหมาะกับการใช้ชีวิตที่รีบร้อนของสังคมสมัยนี้ เพราะแบบนี้หลายคนจึงเต็มใจจะโทรสั่งแฮมเบอร์เกอร์หรือพิซซ่ามานั่งกินไปทำงานไปที่โต๊ะกันเยอะแยะ 
  
2. เลือกใส่เครื่องได้ตามใจชอบ
          จุดเด่นของฟาสต์ฟู้ดอีกอย่างหนึ่งก็คือ การที่เลือกใส่เครื่องได้ตามใจชอบนี่แหละ เช่น ถ้าคุณทำพิซซ่าทานเอง คุณอยากจะใส่เครื่องอะไรโรยหน้าก็ได้ตามใจชอบ ยิ่งไปกว่านั้น เดี๋ยวนี้ต่อให้ไม่ทำอาหารเองที่บ้าน บางร้านก็มีบริการให้คุณเลือกใส่เครื่องได้ตามใจชอบเช่นกัน
  
3. แบบที่มีประโยชน์กับร่างกายก็มีเช่นกัน
          จากการที่ทุกวันนี้ผู้คนหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น ก็เลยทำให้ร้านต่าง ๆ หันมาเพิ่มตัวเลือกในการทานฟาสต์ฟู้ดแบบเพื่อสุขภาพคอยเอาใจลูกค้ากลุ่มนี้ด้วย ซึ่งถ้าใครอยากดูแลตัวเองและอร่อยกับฟาสต์ฟู้ดด้วยในเวลาเดียวกัน ก็ควรเปลี่ยนมาเลือกใส่เครื่องปรุงที่ดีมีประโยชน์กับร่างกายของคุณมากขึ้น เช่น ใช้ขนมปังโฮลวีทแทนขนมปังขาวจะดีกว่า
  
4. ราคาประหยัด
          อาหารฟาสต์ฟู้ดส่วนใหญ่จะมีราคาถูกกว่าพวกอาหารทั่วไปอยู่แล้ว (บางประเภท) เพราะฉะนั้นจึงเหมาะกับคนที่ต้องการจะเก็บเงินเป็นพิเศษ และเพราะแบบนี้เองร้านฟาสต์ฟูดถึงมีคนต่อคิวอยู่เสมอเพื่อให้ได้กินอาหารที่ทั้งอร่อยทั้งประหยัด
  
5. สารอาหารไม่เพียงพอ
          เป็นที่รู้กันดีว่าฟาสต์ฟู้ดน่ะไม่ได้มีสารอาหารครบถ้วนเพียงพอกับที่คนเราต้องการในแต่ละมื้อ ดังนั้นการกินแต่ฟาสต์ฟู้ดเป็นประจำก็จะทำให้คุณกลายเป็นคนขาดสารอาหารไปด้วย โดยเฉพาะสารอาหารประเภทวิตามิน ดังนั้นควรทานอาหารอื่นเช่น สลัดควบคู่ไปด้วยเพื่อให้ร่างกายของคุณได้รับสารอาหารครบถ้วนอยู่เสมอ

  
6. เป็นตัวการทำให้อ้วน
          คนที่ต้องการจะลดน้ำหนักให้ได้ผล ควรงดอาหารพวกนี้อย่างจริงจัง เพราะอาหารฟาสต์ฟู้ดส่วนใหญ่เต็มไปด้วยของที่ทำให้อ้วนทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น ชีส เนย หรือน้ำมันที่จะทำให้น้ำหนักของคุณพุ่งพรวดอย่างรวดเร็ว รู้อย่างนี้แล้วใครที่อยากรักษาหุ่นก็อย่าลืมออกกำลังกายชุดใหญ่หลังทานมื้อหนักของคุณเข้าไปด้วยล่ะ
 7. ทำให้ติดโดยไม่รู้ตัว
          การทานอาหารฟาสต์ฟู้ดติดต่อกันเป็นประจำ จะทำให้คุณติดใจในรสชาติของอาหารประเภทนี้ จนขยาดที่จะกินผักหรือพวกน้ำสลัดไขมันต่ำไปโดยไม่รู้ตัว แถมความสะดวกสบายในการกินยังทำให้คุณเคยตัวจนไม่คิดจะขยับตัวเดินไปไหนอีกด้วย ซึ่งกว่าจะมารู้ทีหลัง สุขภาพของคุณอาจย่ำแย่ไปมากแล้วก็ได้
 8. เป็นสาเหตุของโรคต่าง ๆ
          ถ้าคุณทานฟาสต์ฟู้ดมากเกินไป อาหารพวกนี้ก็จะกลายมาเป็นตัวทำลายสุขภาพของคุณได้ จากปริมาณไขมันและเครื่องเทศรสจัดต่าง ๆ ที่มากเกินเหตุ โดยโรคที่พบหลัก ๆ จากคนที่ทานฟาสต์ฟู้ดมากเกินไปนั้นก็ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคอ้วน และโรคตับนั่นเอง 

วันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ประโยชน์ของผลไม้ไทย

ประโยชน์ของผลไม้ไทย


กล้วย
ประโยชน์ต่อสุขภาพกล้วยทุกชนิดดีต่อสุขภาพ แต่กล้วยไข่ดีเป็นพิเศษในเรื่องของสาร ต้านอนุมูลอิสระ
ที่เรารู้จักดี คือ เบต้าแคโรทีน โดยธรรมชาติเมื่อเราอายุมากขึ้นหรือเกิน 22
ปีไปแล้ว ความเจริญเติบโตของร่างกายจะเริ่มหยุดชะงัก ความเสื่อมในส่วนต่างๆ
ของร่างกายก็เริ่มมาเยือน ช่วงนี้เอง มี 2 สิ่งที่สำคัญเกิดขึ้นในร่างกายเราซึ่งก็คือ
เซลล์ในร่างกายทุกเซลล์ก็จะผลิตอนุมูลอิสระมากขึ้น และส่วนที่สองคือ ความ
สามารถในการซ่อมแซมส่วนสึกหรอของร่างกายจะลดลงเรื่อยๆ พร้อมกันนั้น
ความสามารถในการจำกัดอนุมูลอิสระ ก็ลดลง ในกล้วยไข่ 1 ขีด มีสาร
เบต้าแคโรทีนถึง 492 มิลลิกรัม

แตงโม
ประโยชน์ต่อสุขภาพ
แตงโมมีสารที่ว่ากันว่า ให้ความชุ่มชื้นต่อผิวที่แห้งผาก หรือผิวที่ร้อนระอุในช่วงหน้าร้อนเป็นอย่างดี และแตงโมนั้นก็ยังให้ความเย็นอยู่บนผิวของเราได้นานกว่าผลไม้ชนิดอื่น โดยวิธีการดังนี้เตรียมผ้ากรองชนิดบางขนาดผ้าพันแผล 2 ผืน เฉือนเนื้อแตงโมเป็นชิ้นบางๆ พอประมาณ วางลงระหว่างผ้าที่เตรียมไว้ โดยให้เนื้อแตงโมอยู่ระหว่างกลางผ้า 2 ชิ้น หลังจากนั้น นำมาวางปิดลงบนใบหน้าให้ทั่ว เว้นส่วนของรูจมูก ให้ผ้าและชิ้นแตงโมติดผิวหน้าและทุกส่วน ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที หลังจากนั้นจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด

มะละกอ
ประโยชน์ต่อสุขภาพเป็นไม้ผลที่คนทั่วไปนิยมรับประทาน ผลดิบนำมาปรุงอาหาร
และผลสุกรับประทานสด น้ำมีรสหวานหอม มีวิตามินเอ และ
แคลเซี่ยมสูง มะละกอผลดิบมียาง มีสารเพคติน แคลเซี่ยม
วิตามินซี และอื่นๆ ผลสุก มีวิตามินเอสูง วิตามินซี สารเพคติน
เหล็ก แคลเซี่ยม และมีสาร Cerotenoid เป็นสาร
ที่ทำให้เนื้อมะละกอสุกมีสีส้ม ต้นมะละกอ ใช้เป็นยาขับประจำ
เดือน ลดไข้ ดอก ขับปัสสาวะ ราก แก้กลากเกลื้อน ยาง ช่วย
กัดแผล รักษาตาปลา หูด ฆ่าพยายธิ

ฝรั่ง
ประโยชน์ต่อสุขภาพทราบหรือไม่ว่าฝรั่ง 1 ขีด มีวิตามินซีสูงถึง 180 มิลลิกรัม วิตามิน
ซีมีบทบาทในการสร้างคอลลาเจน ที่ทำให้ผิวพรรณบนใบหน้าของคุณ
เต่งตึงไม่แก่ก่อนวัย และวิตามินซี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเจ้าตัวสาร
ต้านอนุมูลอิสระนี้เอง ที่ทำให้คอลลาเจน และอีลาสติเสื่อมสภาพ ผิวหนัง
เหี่ยวแห้ง เกิดริ้วรอยตีนกา วิตามินซีมีความสำคัญต่อการสร้างและบำรุง
เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน เซลล์นับล้านตัวเกาะเกี่ยวกันเป็นร่างกายได้ด้วยเนื่อ
เยื่อที่เรียกว่า คอลลาเจนี มันคือ คอลลาเจนตัวเดียวกับคอลลาเจน ที่ทำ
ให้ผิวพรรณบนใบหน้าเต่งตึงนั่นเอง
ส้ม
ประโยชน์ต่อสุขภาพแหล่งวิตามิน เกลือแร่ และเส้นใยธรรมชาติ การรับประทานส้มโดย
ไม่คายกากจะช่วยคุมน้ำหนักได้อีกวิธีหนึ่ง เพราะจะทำให้รู้สึกอิ่ม
ท้องเร็ว เป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักได้อย่างดีทีเดียว
นอกจากนี้ หากรู้สึกหิวก่อนเวลา แทนที่จะนึกถึงเค็กก้อนโต หรือ
โดนัทชิ้นใหญ่ ให้ลองหยิบส้มสักลูกเข้าปากแทนจะได้ประโยชน์
มากกว่าในราคาที่ถูกกว่า ผิวส้มมีน้ำมันหอมระเหย วิตามินซี
และสารอื่นๆ ใช้เป็นยา ผิวผลใช้สกัดทำทิงเจอร์สำหรับแต่งกลิ่นยา
และมีฤทธิ์ขับลม เปลือกส้ม ปรุงเป็นยาหอมแก้ลมวิงเวียน หน้ามืด
ตาลาย แก้ลมจุกเสียด แน่นเฟ้อ น้ำจากผล ให้วิตามินซี รับประทาน
ป้องกัน และรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน บำรุงร่างกาย แก้ไอ
และขับเสมหะ

แตงโม
ประโยชน์ต่อสุขภาพแตงโมมีสารที่ว่ากันว่า ให้ความชุ่มชื้นต่อผิวที่แห้งผาก หรือผิวที่ร้อนระอุในช่วงหน้าร้อนเป็นอย่างดี และแตงโมนั้นก็ยังให้ความเย็นอยู่บนผิวของเราได้นานกว่าผลไม้ชนิดอื่น โดยวิธีการดังนี้เตรียมผ้ากรองชนิดบางขนาดผ้าพันแผล 2 ผืน เฉือนเนื้อแตงโมเป็นชิ้นบางๆ พอประมาณ วางลงระหว่างผ้าที่เตรียมไว้ โดยให้เนื้อแตงโมอยู่ระหว่างกลางผ้า 2 ชิ้น หลังจากนั้น นำมาวางปิดลงบนใบหน้าให้ทั่ว เว้นส่วนของรูจมูก ให้ผ้าและชิ้นแตงโมติดผิวหน้าและทุกส่วน ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที หลังจากนั้นจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด

เงาะ
ประโยชน์ต่อสุขภาพ
เปลือกผลเงาะนำมาต้มกินน้ำ เป็นยาแก้อักเสบ มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
รักษาอาการอักเสบในช่องปาก และโรคบิดท้องร่วง มีข้อควรระวัง
อย่าหนึ่งคือเม็ดในของเงาะ มีพิษ แม้ว่าจะเอาไปคั่วจนสุกแล้ว
แต่ถ้ากินมากเกินไปจะมีอาการปวดท้องเวียนศรีษะมีไข้ คลื่นไส้
อาเจียน ดังนั้นเม็ดเราไม่ควรจะรับประทาน

มะม่วง
ประโยชน์ต่อสุขภาพผลรสเปรี้ยว ชุ่มเย็น ใช้บำรุงกระเพาะอาหาร แก้คลื่นไส้ อาเจียน
วิงเวียน กระหายน้ำและขับปัสสาวะ ยางจากลูกและต้นผสมน้ำส้ม
หรือน้ำมันแก้คัน ดอกมะม่วง รับประทานแก้ท้องร่วง และเบาหวาน
แก้บิดเรื้องรัง กระเพาะปัสสาวะอักเสบ และหนองใน เมล็ด รสเปรี้ยว
ชุ่ม สุขุม แก้ไส้เลื่อน ท้องอืดแน่น และขับพยาธิ ใบอ่อนและเปลือก
ชงน้ำร้อนกินแก้ปวด อมบ้วนปากแก้เจ็บคอ ปวดฟัน เจ็บเหงือก
แต่ใบแก่จัดมีสารพิษ

มะเฟือง
เป็นผลไม้ ทรงรูปไข่ มีสันเป็นพูตามความยาว 3-5 เส้น เมื่อผ่าตามขวางจะเป็นรูปคล้ายดาว ผิวผลค่อนข้างเรียบเป็นมัน ผลอ่อนสีเขียว ผลสุกสีเหลือง เนื้อชุ่มน้ำ รสเปรี้ยวหรือหวานแล้วแต่พันธุ์ มะเฟืองเป็นไม้ยืนต้นขนาดย่อม ชอบอากาศร้อนชื้น ลักษณะของผลมะเฟืองเป็นพูลึก ก้นแหลมเป็นร่อง ผิวใสมัน
ประโยชน์ต่อสุขภาพ
เนื้อมะเฟือง มี น้ำมาก มะเฟืองทีทั้งประเภทรสหวานและรสเปรี้ยว มะเฟืองเป็นไม่พุ่ม เมื่อปลูกในกระถางจะเป็นไม้ประดับ มะเฟืองดิบนำมาทำเป็นผักประดับจานสลัดได้ มะเฟืองสุกพันธุ์รสหวานนิยมกินสดเป็นผลไม้ นำมาแปรรูปทำเป็นแยม เยลลี่ ดอง กวน แช่อิ่ม ทำน้ำมะเฟือง ผลมะเฟืองนำไปขจัดสนิมเหล็กได้ สรรพคุณของมะเฟือง ใบยอด บดทาตามตัวรักษาอีสุกอีใส แก้ขี้กลาก ใบต้มแก้ไข้ ผลเป็นยาระบาย ลดอาการอักเสบ ฟอกโลหิต ขับปัสสาวะ ใช้ดอก เป็นยาขับพยาธิ ใบและรากแก้ไข้ ผลขับเสมหะขับปัสสาวะ ขับเลือดเสีย คุณค่าทางอาหาร ให้คาโบไฮเดรต วิตามินซี
แคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส

องุ่น
เป็น ผลไม้ที่มีรสชาติดี ทั้งรสหวาน เปรี้ยว มีขายทั่วไป ปลูกกันมากกว่า 5000 ปี สามารถเจริญเติบโตได้ดีทั้งในเขตหนาว เขตกึ่งร้อนกึ่งหนาว และเขตร้อน
ประโยชน์ต่อสุขภาพ
องุ่น เป็นอาหารบำรุงร่างกายอีกชนิดหนึ่ง นอกจากจะมีคุณค่าทางอาหาร ยังมีสรรพคุณทางยาที่ดีหลายชนิด สารอาหารที่สำคัญ คือน้ำตาล และสารอาหารจำพวกกรดอินทรีย์อีกประมาณ 7-8 ชนิด น้ำตาลกลูโคส น้ำตาลซูโคส วิตามินซี นอกจากนี้ยังมีเหล็ก และแคลเซี่ยม
องุ่นยังสามารถนำไปทำเหล้าองุ่น ซึ่งเป็นเหล้าบำรุง ส่วนเครือและราก ใช้เป็นยาขับลม ขับปัสสาวะ รักษาโรคไขข้ออักเสบ ปวดเอ็นกระดูก และมีฤทธิ์ระงับประสาท แก้ปวด แก้อาเจียนอีกด้วย
การรับประทานองุ่นเป็นประจำ จะมีส่วนช่วยในการบำรุงสมอง บำรุงหัวใจ แก้กระหาย ขับปัสสาวะ บำรุงกำลัง คนที่ร่างกายผอมแห้ง แรงน้อย แก่ก่อนวัย ไม่มีเรี่ยวแรง ถ้ารับประทานองุ่นเป็นประจำ จะช่วยเสริมทำให้ร่างกายค่อยๆแข็งแรงขึ้นได้

มังคุด
เป็น ไม้ผลยืนต้นขนาดใหญ่ ชอบอากาศชื้น ที่สำคัญควรเลือกพื้นที่ปลูกที่มีน้ำเพียงพอตลอดช่วงฤดูแล้ง มังคุดเป็นผลไม้ที่มีระบบรากหาอาหาร ค่อนข้างลึกประมาณ 90-120 ซม. จากผิวดิน ดังนั้น จึงต้องการสภาพแล้งก่อนออกดอกค่อนข้างนาน โดยต้นมังคุดที่สมบรูณ์ ใบยอดมีอายุระหว่าง 9-12 สัปดาห์ เมื่อผ่านช่วงแล้งติดต่อกัน 21-30 วัน และมีการกระตุ้นน้ำถูกวิธี มังคุดจะออกดอก
ประโยชน์ต่อสุขภาพ
สารสกัด มังคุด มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย อันเป็นสาเหตุอาการท้องเสีย สารที่พบมากที่เปลือกคือ tannin มีฤทธิ์ฝาดสมาน จึงช่วยแก้อาการท้องเสีย นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย สาเหตุการเกิดหนอง และยังรักษาแผลได้อีกด้วย
การใช้มังคุครักษาอาการท้องเสีย คือ
1. ใช้เปลือกผลตากแห้ง ต้มกับน้ำปูนใส นำน้ำมาดื่ม
2. ใช้ผลตากแห้งฝนกับน้ำดื่ม
3. ใช้เปลือกตากแห้งมาฝนกับน้ำดื่ม ให้เด็กดื่มครั้งละ 1-2 ช้อนชา ทุก 4 ชม. และผู้ใหญ่ ครั้งละ 4 ช้อนชา ทุก 4 ชม.

สับประรด
เป็น พืชล้มลุก อายุหลายปี สูง 90-100 ซม. มีลำต้นใต้ดิน ใบเดี่ยวเรียงสลับซ้อนกันถี่มาก รอบต้นกว้าง 6.5 ซม. ยาวได้ถึง 1 เมตร ไม่มีก้านใบ ดอกออกเป็นช่อขนาดใหญ่ ออกจากกลางต้น มีดอกย่อยจำนวนมาก ผลเป็นผลรวม รูปทรงกระบอก มีตารอบผล มีใบเป็นกระจุกที่ปลายผล
ประโยชน์ต่อสุขภาพ
รักษา แผลเป็นหนองได้ โดยนำผลสดๆมาคั้นเอาแต่น้ำ ชโลมแผล เอนไซม์จะช่วยย่อยกัดเนื้อเยื่อ และหนองให้หลุด ยังใช้แก้ท้องผูกได้อีกด้วย โดยนำผลสดมาคั้นเอาน้ำ 1 แก้ว อาจผสมกับน้ำสุก 1 แก้ว เติมเกลือเล็กน้อย ดื่มตอนท้องว่าง หรืออาจจะใช้เหง้าสดๆ ประมาณ 200 กรัม หรือแห้ง 100 กรัม ต้มน้ำ 2 แก้ว ดื่มวันละ 3 ครั้งก่อนอาหาร ครั้งละ 1 ถ้วยชา นอกจากนี้สับประรดยังสามารถแก้ปัสสาวะไม่ออก และช่วยย่อยอาหารได้ดีอีกด้วย

แอปเปิ้ล
เป็น พืชล้มลุกอายุหลายปี สูง 90-100 ซม. มีลำต้นอยู่ใต้ดิน ใบเลี้ยงเดี่ยวเรียงสลับซ้อนกันถี่มาก รอบต้น กว้าง 6.5 ซม. ยาวได้ถึง 1 เมตร
ประโยชน์ต่อสุขภาพ
มี สารสำคัญ คือ เบต้าแคโรทีน วิตามินซี และเส้ยใยไฟเบอร์ ชนิละลายน้ำ ที่ชื่อ เพคติน แต่ที่น่าสนใจสำคัญสำหรับผู้หญิงคือ เพคติน นี้มีคุณสมบัติช่วยลดความอยากอาหาร ลดน้ำหนัก และลดโคเลสเตอรอล
แอปเปิ้ลช่วยลดความหิวได้ เพราะแอปเปิ้ลมีแป้งและน้ำตาล ในรูปแบบของน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวถึง 75 เปอร์เซนต์ ทำให้ร่างกายสามารถดูดซับน้ำตาลพิเศษชนิดนี้ได้เร็ว และนำไปใช้ประโยชน์ได้ในเวลาไม่เกิน 10 นาที ดังนั้นความอยากอาหารจึงลดลง ทำให้ไม่รู้สึกหงุดหงิด หรือ อ่อนเพลีย
แอปเปิ้ล 2-3 ผลต่อวัน จะช่วยลดปริมาณโคเลสเตอรอลในกระแสเลือดได้ เพราะแอปเปิ้ลมีเพคติน ซึ่งเป็นไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้ ผลจากการวิฉัยชี้ให้เห็นว่า ทางเดินอาหารย่อยสลายไขมัน และแยกโคเลสเตอรอลออกมาเสร็จสิ้นแล้ว เพคตินจากแอปเปิ้ลจะคอยดักจับโคเลสเตอรอลเหล่านั้น พาไปทิ้งก่อนที่จะถูกดูดกลับเข้าร่างกาย

ลักษณะ ของพืช ต้นชมพู่เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางทรงพุ่ม ใบหนาเป็นมัน โตพอสมควร ดอกจะบานออกมาเป็นฝอยฟูคล้ายกับดอกกระถิน มีสีขาว สีเขียวใบไม้ สีชมพูอ่อนๆผสมผสานกันอยู่ ผลชมพู่ลักษณะกลมแป้น สีเขียวทางขั้วเล็ก เมล็ดในเป็นสีน้ำตาลอ่อน มีเยื่อใยฟูนิ่มอยู่ภายนอก
ประโยชน์ต่อสุขภาพ
รส และสรรพคุณยาไทย เอาเนื้อมาทำเป็นยาบำรุงกำลัง ทำให้เกิดความสดชื่นหอม โดยการเอาเนื้อชมพู่แห้งมาบดหรือรับประทานสดก็ได้ จะเกิดความสดชื่นขึ้นมาทันที สามารถนำมาบำรุงหัวใจได้มาก เพราะชมพู่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ

“แก้วมังกร” ผลไม้เพื่อสุขภาพ
แก้วมังกรเป็นผลไม้ที่มีรสชาติหวานอร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง แคลอรี่ต่ำอุดมไปด้วยวิตามินซี แมกนีเซียมและแคลเซี่ยม แก้วมังกรเป็นผลไม้ที่มีกากใยสูง เมล็ดสีดำเล็กๆ ที่กระจายอยู่ทั่วไปในผลแก้วมังกรจะอุดมไปด้วยไขมันที่ไม่อิ่มตัวซึ่งช่วยต่อต้านปฏิกิริยาอ๊อกซิเดชั่น แก้วมังกรจึงมีประโยชน์ต่อสุขภาพในหลายด้าน
สรรพคุณของแก้วมังกรอีกอย่างหนึ่งคือใช้เป็นผลไม้เสริมสุขภาพและความงาม ใช้บริโภคเพื่อจุดประสงค์ในการลดน้ำหนักเนื่องจากเมื่อกินแก้วมังกรแล้วจะรู้สึกอิ่มและในผลแก้วมังกรก็มีกากใยสูงประกอบกับให้แคลอรี่ต่ำจึงนิยมใช้บริโภคเพื่อลดน้ำหนัก
แก้วมังกรเป็นพืชในตระกูลกระบองเพชรซึ่งมีสารที่มีประโยชน์คือมิวซิเลจ(Mucilage) ที่มีลักษณะคล้ายวุ้นเจลช่วยดูดซับน้ำในร่างกาย ควบคุมระดับกลูโคสในคนที่เป็นโรคเบาหวาน(ชนิดไม่พึ่งอินซูลิน)ได้ แก้วมังกรยังมีประโยชน์ในการบรรเทาโรคโลหิตจางช่วยเพิ่มธาตุเหล็กให้แก่ร่างกาย นอกจากนี้ผลแก้วมังกรยังมีสรรพคุณในการป้องกันโรคหัวใจ มะเร็งลำไส้และต่อมลูกหมาก เบาหวาน ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานของกระดูกและฟัน
แก้วมังกรเป็นผลไม้ที่มีทั้งสรรพคุณทางยา คุณค่าทางโภชนาการหากรู้จักกินเป็นอาหารรักษาโรค(เภสัชโภชนา)แล้วยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพกับความงาม(ผิวพรรณและการลดน้ำหนัก)อีกด้วย จนอาจพูดได้ว่า แก้วมังกรเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกายเช่นเดียวกับผลไม้ชนิดอื่นๆ เช่น มะละกอ ส้ม กล้วย ฯลฯ ดังนั้นหากเรารู้จักเลือกรับประทาน”ผลไม้เพื่อสุขภาพ”ให้ถูกต้องย่อมเกิดผลดีกับร่างกายอย่างแน่นอน แต่วิธีการกินผลไม้ที่ถูกต้องก็คล้ายกับการกินอาหารนั่นคือต้องกินให้หลากหลายจึงจะได้รับสารอาหารและประโยชน์อย่างครบถ้วน การกินผลไม้ก็มีลักษณะเช่นเดียวกัน ไม่ใช่พอรู้ว่าแก้วมังกรมีประโยชน์และดีต่อสุขภาพมากมายหลายประการแล้วก็พยายามหาและกินเฉพาะแก้วมังกรเท่านั้นผลไม้อื่นที่นอกเหนือจากแก้วมังกรแล้วไม่ยอมกินเลย ถ้าทำอย่างนี้จะไม่ได้รับประโยชน์จากการกินผลไม้ที่ถูกต้องเรียกว่า “กินไม่เป็น” ดังนั้นให้เดินทางสายกลางคือกินแต่พอดีจะดีที่สุด.

ทับทิม  

ได้มีการนำทับทิมมาทำเป็นยารักษาโรคตั้งแต่ 8,000 ปีมาแล้วในตำราแพทย์โบราณของเปอร์เซีย (ซึ่งถือกันว่าเป็นต้นตำรับของวิชาแพทย์ตะวันตกในปัจจุบัน) ซึ่งในผลทับทิมมีวิตามินมากมายหลายชนิด รวมทั้งแมกนีเซียมและเคเลี่ยม มีผลดีอย่างมากในระบบฟอกโลหิต และระบบการหมุนเวียนในร่างกาย ทั้งนี้ ในผลทับทิมยังมีสารที่มีลักษณะใกล้เคียงกับฮอร์โมนเอสโตรเจนในสตรี ซึ่งสารนี้จะช่วยปรับฮอร์โมนในวัยหมดประจำเดือน บำรุงผิวพรรณให้สดใส ลดระดับโคเลสเตอรอลและไขมันในเส้นเลือด และในทับทิมยังมีกรดอะมิโน 2 ชนิด คือ กรดกลูตามิน และกรดแอสบารากิน ซึ่งจะช่วยเพิ่มนอร์อะดรีนาลิน ทำให้สมองกระฉับกระเฉงขึ้น ทั้งยังช่วยแก้กระหาย แก้ร้อนใน กรดเอแร็คมีประโยชน์ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง

มะพร้าว
มีบทบาทเสริมสุขภาพให้แกร่งขึ้น มะพร้าวมีไขมันและโปรตีนมาก ผู้คนส่วนใหญ่เข้าใจว่ามะพร้าวมีบทบาทแก้ร้อนใน แต่ความเข้าใจเช่นนี้ไม่ค่อยถูกต้อง เพราะกินมะพร้าวแล้ว จะสามารถช่วยเสริมสุขภาพให้แข็งแรงยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับให้คนที่อ่อนเพลียรับประทาน โดยเฉพาะเอาเนื้อมะพร้าว ข้าวเหนียวตุ๋นกับไก่ จะได้ผลบำรุงร่างกายที่ดี แต่สำหรับคนที่ชอบกินอาหารทอด นอนดึก ปากแห้งและอารมณ์ไม่ค่อยดีนั้น ไม่ควรกินมะพร้าวมาก
บลูเบอร์รี่
 บลูเบอร์รี่ช่วยลดคลอเลสเตอรอล  จากการศึกษาล่าสุดเมื่อไม่นานนี้ พบสารอาหารในผลบลูเบอร์รี่มีฤทธิ์สามารถลดระดับคลอเลสเตอรอลได้อย่างมีประสิทธิภาพ นักวิจัยด้านเคมี Agnes Rimando จากสถาบัน U.S. Department of Agriculture กล่าวว่า สารอาหารที่ว่านี้มีชื่อว่า pterostilbene ซึ่งมีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่ง ทำให้มีผลในการลดคลอเลสเตอรอลในร่างกาย และเชื่อว่าน่าจะนำมาพัฒนาเป็นยา เพื่อใช้ในการรักษาผู้ป่วย ที่มีปัญหาเรื่องคลอเลสเตอรอลสูง

 ส้มโอ
มีธาตุฟอสฟอรัส แคลเซียม มีกรดอินทรีย์ วิตามินซี เอ และบี มีธาตุแคลเซียม ฟอสฟอรัส ขับลมในกระเพาะอาหาร รสขมของส้มโอให้สารเพคตินสูงช่วยในการขจัดไขมันสะสมในร่างกาย โดยเฉพาะไขมันหน้าท้อง  
ลูกพีช
     ลูกพีชเป็นผลไม้ที่มีสีเหลืองอมส้ม ซึ่งผลไม้ที่มีสีเหลืองและสีส้มจะมีวิตามินเอสูงมาก หน้าที่สำคัญของวิตามินเอ ช่วยในการควบคุมการทำงานของ Rod cells และ Cone cells ใน Retina บำรุงรักษาเซลล์ชนิดบุผิว ของอวัยวะต่าง ๆ วิตามินเอมีบทบาทในการสร้างกระดูกและฟัน และระบบสืบพันธุ์ สารสีเหลืองที่มีอยู่ในลูกพีช มีสารต้านอนุมูลอิสระชื่อว่า เบต้าคริบโตแซนทิน ช่วยป้องกันไม่ให้เซลล์ถูกทำลาย ช่วยบำรุงหัวใจและกระเพาะอาหาร เป็นยาระบายอ่อน ๆ ในผลลูกพีชยังมีเกลือแร่โบรอน ซึ่งทำให้สมองกระฉับกระเฉงและกระปรี้กระเปร่า ถ้าได้รับเกลือแร่โบรอนในปริมาณต่ำ จะทำให้สมองทำงานช้าลงและสมาธิสั้น 

ประโยชน์ของผักผลไม้

  1. ผักผลไม้เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย การรับประทานผักผลไม้เป็นประจำจะช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรงมีอายุยืนยาว และมีส่วนช่วยในการเจริญเติบโต
  2. ผักผลไม้มีสารต้านอนุมูลอิสระที่เป็นตัวช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต่าง ๆ รวมไปถึงโรคมะเร็ง (โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคมะเร็งลำไส้)
  3. ช่วยป้องกันความเสื่อมของอวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกาย บำรุงสุขภาพและอวัยวะภายในร่างกาย
  4. การรับประทานผักผลไม้เป็นประจำจะช่วยทำให้ระบบขับถ่ายสามารถทำงานได้อย่างเป็นปกติ และช่วยป้องกันโรคท้องผูกได้
  5. ผักผลไม้บางชนิดยังสามารถใช้เป็นยาสมุนไพรเพื่อบำบัดและรักษาโรคบางชนิดได้อีกด้วย เช่น ไข้หวัด ร้อนใน โรคมะเร็ง โรคหัวใจ ตาฝ้าฟาง แผลอักเสบ เหน็บชา เป็นต้น
  6. ผักผลไม้บางชนิดก็เป็นตัวช่วยในการลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนักได้เป็นอย่างดี เช่น กล้วย แอปเปิ้ล มะละกอ ผักสลัด ถั่ว หน่อไม้ฝรั่ง อะโวคาโด เป็นต้น
  7. การรับประทานผักผลไม้สามารถช่วยพัฒนาสมอง เสริมสร้างความจำ และเป็นอาหารสมองได้เป็นอย่างดี เพราะสารอาหารที่มีผลต่อการทำงานของระบบประสาท มักจะพบได้ในอาหารจำพวกผักใบเขียว ผลไม้ และธัญพืชต่าง ๆ
  8. ช่วยบำรุงสายตา ผักผลไม้บางชนิดจะมีวิตามินสูง สารอาหารที่ชื่อว่าลูทีน (Lutein) และซีแซนทีน (Zeaxanthin) เป็นสารอาหารที่สำคัญในการบำรุงสายตา โดยผักผลไม้ที่วิตามินเอสูง ได้แก่ แครอท ฟักทอง ผักบุ้ง ผักคะน้า ตำลึง มะละกอ มะม่วงสุก เป็นต้น
  9. การรับประทานผักผลไม้ก็ทำให้ผิวพรรณของคุณดูสวยงามขึ้นได้ เพราะนอกจากจะช่วยทำให้มีหุ่นเพรียวสวยแล้ว ผักผลไม้บางชนิดยังอุดมไปด้วยวิตามินซีและวิตามินอี ซึ่งเป็นอาหารผิวที่มีส่วนช่วยในการบำรุงผิวพรรณ กระตุ้นการไหลเวียนโลหิตของผิว ทำให้ผิวพรรณมีเลือดฝาด ผิวดูมีสุขภาพดีและเรียบเนียน อีกทั้งยังช่วยในการสังเคราะห์คอลาเจนในเซลล์ จึงช่วยทำให้ผิวแน่นและยืดหยุ่น เต่งตึง ไม่เหี่ยวย่นก่อนวัยอันควรได้เป็นอย่างดี
  10. ประโยชน์ของผักผลไม้ 5 สี

    • ผักผลไม้สีเขียว โดยสารที่ให้สีเขียวก็คือสารคลอโรฟิลล์ และยังมีสารประกอบอื่น ๆ ที่มีคุณสมบัติบำรุงสุขภาพ เช่น ลูทีน ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันมะเร็ง และลดการเกิดความเสื่อมของจอประสาทตาได้ เป็นต้น ผักผลไม้ในกลุ่มนี้ ได้แก่ กวางตุ้ง กะหล่ำปลี ชะอม ผักคะน้า ผักโขม บล็อกโคลี่ ชมพู่เขียว แตงไทย ฝรั่ง พุทรา น้อยหน่า มะกอกน้ำ อะโวคาโด องุ่นเขียว แอปเปิ้ลเขียว ฯลฯ
    • ผักผลไม้สีขาวหรือสีน้ำตาล จะมีสารฟลาโวนอยด์อยู่หลายชนิด ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ลดการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง ช่วยลดอาการปวดข้อเข่า ซึ่งจะพบได้มากในเนื้อและเปลือกมังคุด แก้วมังกรเนื้อขาว ฝรั่ง แอปเปิ้ล และผลไม้อื่น ๆ เช่น กล้วย เงาะ ลางสาด ลองกอง ลิ้นจี่ พุทรา เป็นต้น
    • ผักผลไม้สีเหลืองหรือสีส้ม จะมีสารเบต้าแคโรทีน ฟลาโวนอยด์ วิตามินซี ที่่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบและเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง กระตุ้นการกำจัดเซลล์มะเร็งของร่างกาย ช่วยดูแลรักษาสุขภาพหัวใจ หลอดเลือด และระบบภูมคุ้มกันภายในร่างกาย ผักผลไม้ในกลุ่มนี้ ได้แก่ ข้าวโพด แครอท ฟักทอง กล้วย ขนุน แคนตาลูปสีเหลือง มะละกอสุก ส้ม สับปะรด แอปริคอต เป็นต้น
    • ผักผลไม้สีแดงหรือสีชมพูอมม่วง จะมีสารในกลุ่ม Lycopene และ Betalain ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมากของผู้ชาย ช่วยบำรุงหัวใจและหลอดเลือด ช่วยปริมาณของไขมันร้าย (LDL) ภายในเลือด และบำรุงระบบทางเดินปัสสาวะ โดยจะพบอยู่ในผักผลไม้จำพวกดอกกระเจี๊ยบ แก้วมังกรเนื้อชมพู แตงโม ตะขบ ชมพู่แดง เชอร์รี่ มะเขือเทศ มะละกอเนื้อแดง หัวบีทรูท หัวหอม สตรอเบอร์รี่ แอปเปิ้ลแเดง เป็นต้น
    • ผักผลไม้สีม่วงแดงหรือสีม่วงหรือสีน้ำเงิน จะอุดมไปด้วยสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) และกลุ่ม Polyphenol ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ ป้องกันการทำลายของรังสีอัลตร้าไวโอเลต ช่วยปกป้องทุกเซลล์ให้พ้นภัยจากเซลล์มะเร็งตัวร้าย ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ผนังหลอดเลือด ช่วยลดการเกิดไขมันอุดตันในหลอดเลือดและโรคหลอดเลือดหัวใจแข็งตัว ช่วยยับยั้งเชื้ออีโคไลในทางเดินอาหารที่ทำให้เกิดท้องเสีย ช่วยต้านไวรัส และลดการอักเสบได้ ผักผลไม้กลุ่มนี้ได้แก่ กะหล่ำปลีม่วง ข้าวเหนียวดำ ข้าวแดง ข้าวนิล ชมพู่มะเหมี่ยว ชมพู่แดง ถั่วดำ ถั่วแดง เผือก มันสีม่วง มะเขือม่วง หอมแดง ดอกอัญชัน น้ำว่านกาบหอย ลูกหว้า ลูกไหน ลูกพรุน บลูเบอร์รี่ แบล็กเบอร์รี่ แครนเบอร์รี่ องุ่นแดง องุ่นม่วง เป็นต้น

      การเลือกรับประทานผักผลไม้

      • ผักผลไม้ชนิดใดที่ที่สุด? ไม่มีชนิดใดดีที่สุดครับ เพราะสารสำคัญในผักผลไม้ชนิดต่าง ๆ จะทำงานออกฤทธิ์ส่งเสริมเกื้อหนุนกัน
      • ผักดิบกับผักสุก มีประโยชน์เหมือนกันหรือไม่? ผักสุกอาจสูญเสียวิตามินบางชนิดได้ เช่น วิตามินซี ที่สลายตัวได้ง่ายเมื่อถูกความร้อน แต่บางคนอาจประสบปัญหาท้องผูกจากการรับประทานผักดิบได้ หรือมีอาการท้องเสียเพราะล้างผักไม่สะอาด แต่ผักบางชนิดเองหากรับประทานแบบสุกก็จะมีประโยชน์มากกว่า เช่น มะเขือเทศที่ผ่านการปรุงสุกหรือผ่านกระบวนต่าง ๆ เพราะร่างกายจะนำไลโคปีนไปใช้ได้ดีกว่าแบบดิบหรือสดครับ
      • น้ำผักผลไม้มีประโยชน์เหมือนผักผลไม้สด ๆ หรือไม่? น้ำผักผลไม้จะไม่มีกากใยอาหารเหมือนกับการรับประทานแบบสด ๆ แต่สำหรับผู้ที่ไม่ค่อยได้รับประทานผักผลไม้สดก็อาจดื่มน้ำผักผลไม้เสริมก็ได้ แต่ถ้าจะให้ดีควรคั้นดื่มเอง เนื่องจากน้ำผักผลไม้สำเร็จรูปจะมีปริมาณของน้ำตาลที่สูง
      • ผักผลไม้แห้งดีหรือไม่ดี? ผักผลไม้แห้งบางอย่างที่เติมเกลือ ก็จะมีผลต่อโรคความดันโลหิตสูง จึงควรรับประทานแต่น้อย ส่วนผักผลไม้แห้งที่ใส่น้ำตาลจะให้พลังงานสูงกว่าผักผลไม้สดประมาณ 1 เท่าตัว แต่ถ้ารับประทานมากก็ทำให้อ้วนได้เช่นกัน
      • ผักผลไม้บรรจุกระป๋องหรือแช่แข็ง มีประโยชน์หรือไม่? กระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพสามารถรักษาคุณค่าทางโภชนาการเอาไว้ได้ แต่ก็อาจทำให้สูญเสียวิตามินบางชนิดไปบ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับเสื่อมคุณภาพเสียทีเดียว อย่างไรก็ตามถ้าเป็นผักผลไม้กระป๋องก็ควรเลือกชนิดที่ไม่เติมเกลือและน้ำตาล หรือเลือกชนิดที่ใส่สารแต่งเติมให้น้อยที่สุด ส่วนผักผลไม้แช่แข็งก็ต้องเก็บไว้ในอุณหภูมิที่เหมาะสมเท่านั้น
      • สารสกัดจากผักผลไม้สามารถทกแทนผักไม้สดได้หรือไม่? ผักผลไม้แปรรูปที่อยู่ในรูปของอาหารเสริมหรือสารสกัดไม่สามารถทดแทนการรับประทานผักผลไม้สดได้ หรือผักผลไม้สดจะมีทั้งกากใบ วิตามิน และเกลือแร่มากมายหลายชนิด

ใส่ความเห็น